บทความนี้เหมาะสำหรับเว็บไซต์บริษัทดูดส้วม, ผู้รับเหมาระบบประปา, เพจบ้านและที่อยู่อาศัย, หรือบล็อกความรู้ด้านสุขาภิบาลในครัวเรือน
เนื้อหาครอบคลุมสาเหตุ, สัญญาณเตือนที่ตรวจได้เอง, ความแตกต่างระหว่าง “ถังเต็ม” กับ “ท่ออุดตัน”, รวมถึงแนวทางแก้ไขและป้องกันอย่างถูกวิธี
“กลิ่นเหม็นจากส้วม”, “น้ำรอระบายช้า”, “ชักโครกปุด ๆ” — ปัญหาเหล่านี้คือสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่หลายคนมักมองข้าม
ในความเป็นจริง อาจไม่ใช่แค่ส้วมตันธรรมดา แต่อาจเป็นเพราะ “ถังบำบัดน้ำเสียเริ่มเต็มหรืออุดตัน” แล้วก็ได้
ถังบำบัดน้ำเสีย (Septic Tank) มีหน้าที่รับและย่อยสลายของเสียจากส้วมก่อนปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดบางส่วนออกสู่ดิน
เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ตะกอนและของแข็งจะสะสมมากขึ้นจนประสิทธิภาพลดลง หากไม่ดูแล อาจเกิดทั้ง “กลิ่นเหม็น”, “น้ำล้น”, และ “ส้วมใช้ไม่ได้”
ถังบำบัดจะมี 2–3 ห้องหลัก
ห้องเกรอะ (Septic Chamber) – ใช้ตกตะกอนของเสียหนัก เช่น เศษอาหาร กระดาษ
ห้องย่อยสลาย (Anaerobic Chamber) – จุลินทรีย์ย่อยของเสียให้เป็นตะกอนละเอียด
ห้องกรองหรือห้องบำบัด (Filter Chamber) – กรองน้ำเสียก่อนปล่อยออก
เมื่อใช้ไปนาน ๆ ตะกอนในห้องแรกและสองจะสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หากไม่ดูดส้วมหรือบำรุงถังบำบัดเลย ประสิทธิภาพจะลดลง จนเกิด “สัญญาณเตือน” ที่มองเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
เวลากดชักโครกแล้วน้ำไหลวนอยู่นาน หรือระดับน้ำไม่ลดลงตามปกติ
บางครั้งจะได้ยินเสียง “ปุด ๆ” เหมือนมีอากาศดันกลับขึ้นมา
สาเหตุ:
ถังบำบัดเต็มจนของเสียไม่สามารถไหลผ่านได้ตามแรงโน้มถ่วง
หรือมีตะกอนหนาจนปิดทางไหลของน้ำ
แนวทางแก้:
เรียกรถดูดส้วมมาตรวจระดับตะกอน หากเต็มจริงควรดูดทันที
ห้ามเทน้ำยาละลายของเสียแรง ๆ เพราะอาจทำลายจุลินทรีย์ที่ย่อยในถัง
กลิ่นจะโชยขึ้นมาโดยเฉพาะช่วงเช้าหรือกลางคืน
บางครั้งมีกลิ่นคล้ายก๊าซไข่เน่า (Hydrogen Sulfide)
สาเหตุ:
ก๊าซจากการย่อยสลายของเสียไม่สามารถระบายออกได้
เนื่องจากช่องอากาศหรือท่อระบายอุดตัน หรือถังเต็มจนเกิดแรงดันย้อน
แนวทางแก้:
ตรวจดู “ท่ออากาศระบาย” หลังถังบำบัดว่ายังเปิดโล่งไหม
หากกลิ่นแรงจนเข้าบ้าน ให้ดูดถังและทำความสะอาดระบบทันที
โดยเฉพาะตอนใช้น้ำที่จุดอื่น เช่น เปิดก๊อก อาบน้ำ หรือซักผ้า
สาเหตุ:
แรงดันอากาศในท่อไม่สมดุลเพราะของเสียอุดตัน
หรือถังบำบัดมีของเหลวเต็มจนดันอากาศกลับเข้าท่อ
แนวทางแก้:
หากท่อระบายอากาศดีอยู่ แต่เสียงยังดัง → ให้ตรวจระดับตะกอนในถัง
ดินชื้นตลอดเวลา
มีกลิ่นเหม็นคล้ายของเสียหรือคราบน้ำสกปรก
สาเหตุ:
น้ำในถังล้นออกมาตามรอยต่อ หรือท่อรั่ว
กรณีรุนแรงอาจเกิดการ “รั่วซึมใต้ดิน” ซึ่งอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทางแก้:
รีบหยุดใช้น้ำและเรียกช่างมาตรวจสอบทันที
หากเป็นการรั่วจากถังเก่า ควรเปลี่ยนถังใหม่เพื่อป้องกันน้ำเสียปนเปื้อนดิน
ไม่ใช่แค่ส้วม แต่รวมถึงอ่างล้างหน้าและท่อพื้นห้องน้ำ
น้ำระบายช้าไปหมด แสดงว่าอุดตันระดับถังหรือท่อหลัก
สาเหตุ:
ของเสียแข็งเกาะตัวในท่อทางออกของถัง
หรือถังเต็มจนระบบไหลต่อไม่ทัน
แนวทางแก้:
ตรวจถังบำบัดก่อนเสมอ ถ้าระดับน้ำในถังสูงเกินปกติให้ดูดทิ้ง
หากยังไม่ดีขึ้นหลังดูด ควรตรวจท่อหลักของระบบบ้าน
บ่งบอกว่าถังเริ่มมีแรงดันก๊าซสะสม
เกิดจากการย่อยสลายของเสียที่หนามากจนระบายก๊าซไม่ทัน
สาเหตุ:
ของเสียในถังมีมากเกินไป + จุลินทรีย์ทำงานไม่สมดุล
แนวทางแก้:
เรียกดูดถัง และหลังดูดควรเติมจุลินทรีย์ใหม่เพื่อฟื้นระบบย่อย
| ลักษณะอาการ | ถังบำบัดเต็ม | ท่ออุดตัน |
|---|---|---|
| น้ำชักโครกไหลช้า | ✅ มีแน่นอน | ✅ มีแน่นอน |
| กลิ่นเหม็นในห้องน้ำ | ✅ มักมีกลิ่นแรง | ⚠️ อาจมีกลิ่นเฉพาะจุด |
| เสียงปุดในชักโครก | ✅ บ่อย | ⚠️ พบบางครั้ง |
| น้ำซึมรอบถัง / พื้นชื้น | ✅ พบได้บ่อย | ❌ ไม่มี |
| น้ำไหลย้อนออกจากท่อ | ✅ พบเมื่อถังล้น | ✅ พบเฉพาะท่อจุดตัน |
| วิธีแก้ | ดูดส้วม / ล้างถังบำบัด | ใช้เครื่องล้างท่อ / น้ำยาเปิดท่อ |
สรุป:
ถังเต็ม → ต้อง “ดูดส้วม”
ท่ออุดตัน → ต้อง “ล้างท่อ”
หากไม่แน่ใจ ให้สังเกตบริเวณ “บ่อพัก” หน้าถัง ถ้ามีน้ำขังแปลว่าปัญหาอยู่ที่ถังแน่นอน
ขึ้นอยู่กับ “จำนวนผู้อยู่อาศัย” และ “ขนาดถัง”
| จำนวนคนในบ้าน | ขนาดถังบำบัด (ลิตร) | ควรดูดส้วมทุกกี่ปี |
|---|---|---|
| 1–3 คน | 800–1000 ลิตร | ทุก 3–4 ปี |
| 4–5 คน | 1200–1600 ลิตร | ทุก 2–3 ปี |
| 6 คนขึ้นไป | 2000 ลิตรขึ้นไป | ทุก 1–2 ปี |
| บ้านพักรายวัน / รีสอร์ต | ใช้งานหนัก | ทุก 6–12 เดือน |
หมายเหตุ: หากใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือสารเคมีแรง ๆ บ่อย ๆ ควรดูดถังเร็วกว่ากำหนด เพราะจุลินทรีย์จะถูกทำลายและของเสียย่อยไม่หมด
อย่าทิ้งกระดาษทิชชู่ ผ้าอนามัย หรือสำลีลงส้วม
→ ของเหล่านี้ย่อยไม่ได้ จะสะสมเป็นก้อนในถัง
ลดการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อแรง ๆ
→ สารเคมีจะฆ่าจุลินทรีย์ในถัง ทำให้ของเสียย่อยไม่หมด
หมั่นเติมจุลินทรีย์เดือนละ 1 ครั้ง
→ ช่วยย่อยกากของเสีย ลดกลิ่น และรักษาสมดุลระบบ
ตรวจรอยรั่วรอบถังทุกปี
→ ป้องกันน้ำเสียซึมลงดินและมีกลิ่น
ดูดถังตามรอบ ไม่ปล่อยจนล้น
→ ป้องกันระบบล้นหรือท่ออุดตันทั้งระบบ
ถังบำบัดน้ำเสีย “เต็ม” หรือ “อุดตัน” ไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่สามารถสังเกตได้ เช่น
น้ำไหลช้า กลิ่นเหม็น เสียงปุด ๆ หรือมีน้ำซึมรอบถัง
การใส่ใจสัญญาณเหล่านี้และเรียกบริการดูดส้วมตรวจเช็กก่อนเกิดปัญหาใหญ่
จะช่วยป้องกันความเสียหายต่อระบบสุขาภิบาล ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยืดอายุการใช้งานของถังบำบัดไปได้อีกหลายปี
หากพบอาการเหล่านี้ อย่ารอให้ “ส้วมเต็มจนใช้ไม่ได้” —
เพียงเรียกรถดูดส้วมหรือช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจเช็ก ก็ช่วยให้บ้านคุณกลับมาสะอาดและไร้กลิ่นได้ในเวลาไม่นาน
ติดต่อเรา : www.toiletsuctionservice.com
สูบส้วม สูบถังแซท สูบบ่อเกรอะ กรุงเทพฯพื้นที่ต่างๆ ในเมืองและรอบปริมณฑลสามารถให้บริการ เกี่ยวกับงานใหญ่หรืองานเล็ก เราสามารถจัดการได้
©2024. toiletsuctionservice.com. All Rights Reserved.