กลิ่นย้อน กลิ่นเหม็นจากท่อ เกี่ยวกับการสูบส้วมหรือเปล่า?

กลิ่นเหม็นที่ลอยขึ้นมาจากท่อน้ำ ท่อชักโครก หรือท่อระบายน้ำในบ้าน เป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างความรำคาญใจให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในห้องน้ำ ครัว หรือจุดที่มีการระบายน้ำบ่อย ๆ บางคนอาจสงสัยว่า…“กลิ่นพวกนี้เกี่ยวข้องกับการต้องสูบส้วมหรือไม่?” และจะแก้ไขได้อย่างไร?

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสาเหตุของกลิ่นย้อน และตอบคำถามสำคัญว่า “จำเป็นต้องสูบส้วมหรือไม่?” เพื่อป้องกันปัญหาให้ไม่เรื้อรังและหมดกลิ่นกวนใจอย่างได้ผล


🔍 กลิ่นเหม็นย้อนมาจากไหน?

กลิ่นที่โชยมาจากท่อมักจะมาจากก๊าซในระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายจุด เช่น:

  1. ถังบำบัดเต็ม
    เมื่อถังเก็บของเสียเต็มหรือใกล้เต็ม ก๊าซที่เกิดจากการหมักหมมของของเสียจะระบายขึ้นตามท่อ และมีกลิ่นรุนแรง

  2. ท่อดักกลิ่นแห้ง (P-Trap / S-Trap)
    อุปกรณ์ดักกลิ่นที่อยู่ใต้ซิงก์หรือชักโครก หากไม่มีน้ำขังอยู่ในท่อ จะทำให้ก๊าซย้อนขึ้นมาได้ง่าย

  3. การระบายอากาศของท่อไม่ดี
    ระบบท่อบางบ้านไม่มีท่อระบายอากาศ (vent pipe) หรือมีแต่ถูกอุดตัน ทำให้แรงดันก๊าซย้อนขึ้นมาทางท่อน้ำ

  4. ท่อมีคราบไขมันหรือเศษอาหารสะสม
    โดยเฉพาะในครัว ทำให้เกิดการหมักหมม ส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นเน่าคล้ายท่ออุดตัน

  5. ซีลยางชำรุด / ข้อต่อหลวม
    เมื่อส่วนเชื่อมของสุขภัณฑ์ไม่แน่นสนิท ก๊าซจะสามารถเล็ดลอดออกมานอกระบบได้


💩 กลิ่นเหม็นเกี่ยวกับการ “ต้องสูบส้วม” หรือไม่?

✅ คำตอบคือ: “มีส่วนเกี่ยวข้อง” แต่อาจไม่ใช่สาเหตุเดียวเสมอไป

ถังบำบัดหรือถังเกรอะที่ “เต็มจนเกินขนาด” จะทำให้ของเสียไม่สามารถย่อยสลายได้ดี ก๊าซที่เกิดขึ้นจากการหมักของสิ่งปฏิกูลจึงระบายย้อนขึ้นมาทางท่อระบายในบ้าน นอกจากนี้ของเสียที่ล้นถังอาจทำให้ เกิดน้ำขังในท่อ ซึ่งยิ่งเป็นแหล่งสะสมกลิ่นและแบคทีเรีย

สัญญาณว่า “ควรสูบส้วม”:

  • กลิ่นเหม็นจากชักโครกโดยตรง แม้ไม่ได้ใช้งาน

  • กดชักโครกแล้วน้ำลงช้า หรือน้ำล้นกลับขึ้นมา

  • มีเสียง “ปุด ๆ” ในท่อระบายเวลาปล่อยน้ำ

  • ใช้ห้องน้ำน้อย แต่กลิ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับกลิ่นเหม็นที่ชัดเจน ควรเรียกบริการสูบส้วมมาตรวจสอบและดำเนินการโดยเร็ว


🛠 วิธีแก้ไขเบื้องต้น (หากยังไม่ถึงขั้นต้องสูบส้วม)

  1. เติมน้ำใส่ท่อดักกลิ่นที่แห้ง
    เช่น ท่อใต้ซิงก์ ท่อพื้น หากไม่ได้ใช้นาน น้ำในพีแทรปจะแห้ง → เติมน้ำเพื่อปิดช่องก๊าซ

  2. ใช้น้ำยาดับกลิ่นหรือเบกกิ้งโซดา + น้ำส้มสายชู
    เทลงท่อระบายน้ำ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วราดน้ำร้อนช่วยล้างคราบในท่อ

  3. ทำความสะอาดซอกมุมห้องน้ำ
    โดยเฉพาะขอบฐานสุขภัณฑ์ ที่อาจมีคราบแบคทีเรียสะสมโดยมองไม่เห็น

  4. ตรวจเช็กซีลรอบสุขภัณฑ์
    เช่น ขอบชักโครก หรือข้อต่อโถปัสสาวะ หากชำรุดควรเปลี่ยนซีลหรือยาแนวใหม่

  5. เปิดพัดลมดูดอากาศ / ติดตั้งท่อระบายก๊าซ (Vent pipe)
    ช่วยระบายแรงดันในระบบ ลดแรงดันย้อนจากกลิ่นได้ดี


✅ เมื่อไหร่ควรเรียกบริการ “สูบส้วม”?

  • กลิ่นเหม็นชัดเจน แม้ล้างห้องน้ำแล้ว

  • ใช้ห้องน้ำน้อยแต่กลิ่นแรงผิดปกติ

  • มีประวัติไม่ได้สูบถังเกรอะมาเกิน 1–2 ปี

  • พบว่าน้ำขัง ท่อระบายช้าหรือย้อนกลับ

การสูบส้วมทุก 1–2 ปีเป็นรอบที่แนะนำ สำหรับบ้านทั่วไป หากบ้านคุณมีสมาชิกหลายคนหรือมีการใช้น้ำมาก ควรตรวจสอบและสูบบ่อยขึ้นตามความเหมาะสม


สรุป

กลิ่นย้อน กลิ่นเหม็นจากท่อ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ “ถังบำบัดเต็ม” หรือ “ของเสียสะสมเกินกำหนด” ก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การปล่อยให้ระบบบำบัดภายในบ้านเสื่อมสภาพจะไม่เพียงแค่สร้างกลิ่นรบกวน แต่ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และนำไปสู่ปัญหาสุขาภิบาลในระยะยาว

การตรวจสอบสม่ำเสมอ และการสูบส้วมตามรอบ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านควรใส่ใจอย่างยิ่ง

ติดต่อเรา : www.toiletsuctionservice.com

รูปการบริการของเรา